เมื่อพูดถึงประเพณี"บุญบั้งไฟ" ที่เป็นประเพณีการละเล่นอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวอีสาน แน่นอนว่าหลายๆคนคงต้องนึกถึงงานประเพณีบุญบั้งไฟที่จังหวัดยโสธรมาเป็นลำดับต้นๆ
และเมื่อพูดถึงชาว"ผู้ไท" "ภูไท" หรือ "ผู้ไทย" หลายคนมักจะนึกถึงความเป็นเอกลักษณ์ของชนชาติพันธุ์ที่มีภาษาพูด การแต่งกาย และวัฒนธรรมประเพณีที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งหลายคนก็คงไม่ได้คิดถึงชาวผู้ไทกับงานบุญบั้งไฟมากนัก |
|
บั้งไฟตะไลล้านทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างสวยงาม |
|
|
แต่สำหรับชาวผู้ไทยที่ตำบลกุดหว้า อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ พวกเขามีงานประเพณีบุญบั้ืงไฟอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร กับงาน "บุญบั้งไฟตะไลล้าน" อันน่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 18-19 พ.ค. ที่ผ่านมา |
|
นายพิศดา จำพล ปราชญ์ชาวบ้าน |
|
|
นายพิศดา จำพล ปราชญ์ชาวบ้าน เล่าว่า งานบุญบั้งไฟตะไลถือเป็นความภาคภูมิใจของชาวบ้านกุดหว้า ซึ่งถือได้ว่าเป็นภูมิปัญญาผู้ไทย ที่สืบทอดต่อกันมาให้ลูกหลาน ในสมัยก่อนการทำบุญบั้งไฟบ้านกุดหว้า จะใช้บั้งไฟหางเหมือนกับพื้นที่อื่น ไม่มีอะไรแตกต่างกันมากนัก จนมาเมื่อปี พ.ศ. 2521 ตนได้คิดค้นวิธีทำบั้งไฟ เพื่อให้แตกต่างจากพื้นที่อื่น จนได้เริ่มการทำบั้งไฟตะไลแสนขึ้นมา และได้มีการจุดบั้งไฟตะไลบั้งแรกในงานบุญบั้งไฟในปีนั้น และตำบลกุดหว้าก็ได้สืบสานเป็นการจัดงานบุญบั้งไฟตะไลเรื่อยมา |
|
ดินประสิวที่ใช้ในการทำตะไล |
|
|
ในส่วนของบั้งไฟตะไลล้านนั้น แรกเริ่มเดิมทีมีเพียงแค่การจุดบั้งไฟตะไลแสน แต่ต่อมาได้มีการพัฒนาบั้งไฟให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น จนในปี พ.ศ.2540 ได้มีการทำบั้งไฟตะไลล้านขึ้นมาเป็นรูปเป็นร่าง แต่เมื่อจุดตะไลแล้วไม่ประสบผลสำเร็จ หลังจากนั้นก็ได้มีการพัฒนาสูตรการทำตะไลล้านมาเรื่อยๆ จนในที่สุดการทำบั้งไฟตะไลล้านก็สำเร็จ และสามารถจุดขึ้นได้ในปี พ.ศ. 2542 จากนั้นจึงได้มีการทำบั้งไฟตะไลล้านมาเรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน |
|
ส่วนหนึ่งของกรรมวิธีในการทำบั้งไฟตะไล |
|
|
ปัจจุบันการจุดบั้งไฟตะไลนั้น มีลักษณะเป็นวงกลมคล้ายล้อเกวียน ประกอบด้วยกระบอกหรือแป๊บเหล็ก ข้างในอัดแน่นด้วยดินปืน ขอบของบั้งไฟ มีลักษณะเป็นวงกลมทำด้วยไม้ไผ่ผ่าให้แบน เรียกว่า ‘กง’ มีหน้าที่บังคับบั้งไฟ
บั้งไฟตะไลมีหลายขนาด มีการแบ่งตะไลออกเป็นสองประเภท คือตะไลเล็กกับตะไลใหญ่ ซึ่งตะไลเล็กจะเรียกว่าตะไลแสน มีความยาวประมาณ 2 - 3 เมตร มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 3 นิ้วขึ้นไป ส่วนตะไลใหญ่ คือบั้งไฟตะไลล้านจะมีความยาว 6 เมตร และมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 นิ้วขึ้นไป ตัวบั้งไฟทำจากท่อเหล็ก ไม่เหมือนกับบั้งไฟหางในปัจจุบัน ในการประกอบบั้งไฟนั้น ดูจากภายนอกเหมือนไม่มีอะไรที่ยุ่งยากมากนัก เห็นก็จะมีเพียงแค่ตัวท่อเหล็กตรงกลาง และไม้ไผ่ที่ประกอบเป็นตะไลเท่านั้น |
|
รูที่ใช้สำหรับจุดไฟตะไล |
|
|
นายดวงจันทร์ วรรณสา ผู้ทำบั้งไฟ ค่ายศิษย์ช่างแดง บอกกับเราว่า สำหรับการทำตะไลนั้น ในแต่ละปีจะเริ่มทำตอนเดือนเมษายน ไปจนถึงวันงาน โดยรวมๆ แล้ว ก็จะใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน แต่ถ้าหากใครที่ยังไม่เคยทำ หรือไม่มีอุปกรณ์ในการทำ ก็ใช้เวลาร่วม 2 เดือน
ในการทำตะไลแต่ละอันจะใช้ดินปืน หรือดินประสิวบรรจุเข้าไปในท่อเหล็ก โดยใช้แรงดันจากเครื่องอัด เป็นตัวบรรจุดินประสิวเข้าไปทีละนิดๆ ให้แน่น จนกว่าจะเต็ม โดยในการทำตะไลแต่ละอันต้องทำรูไว้ เพื่อใช้ในการจุด ส่วนจะมีจำนวนกี่รูนั้นก็ขึ้นอยู่กับขนาดของตะไลแต่ละอัน โดยประมาณจะอยู่ที่ 4 และ 6 รู และในการจุดตะไลนั้น ต้องจุดให้ติดครบทุกรู ถ้ารูใดรูหนึ่งไม่ติด ก็จะทำให้บั้งไฟตะไลขึ้นสู่ท้องฟ้าไม่ได้ |
|
แต่ละค่ายต้องนำบั้งไฟไปวางบนฐาน เตรียมพร้อมจุดไฟ |
|
|
เมื่อมาถึงวันงานประเพณีบุญบั้งไฟตะไลล้าน (วันจริง) แต่ละค่ายก็จะแบกตะไลเข้าไปยังพื้นที่ที่จัดไว้สำหรับใช้ในการจุดบั้งไฟ โดยนำตะไลแต่ละอันไปวางบนฐานที่เตรียมไว้สำหรับการจุด เมื่อนำตะไลไปวาง และสำรวจทิศทางแล้ว จากนั้นจะมีการชูธงเขียว บอกสัญญาณให้ทางคณะกรรมการรู้ว่า พร้อมที่จะจุดแล้ว จากนั้นก็จะจุดไฟในรูแต่ละรูจนครบ และนาทีระทึกใจก็มาถึง เมื่อคนจุดไฟจุดครบทั้งหมดแล้ว ก็ต้องวิ่งแบบไม่หันหลังกลับไปมอง เพื่อไปหลบในบังเกอร์ |
|
เมื่อจุดไฟครบแล้ว บั้งไฟจะขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างสวยงาม |
|
|
จากควันสีขาวปนเทา จะค่อยๆ ลอยออกมา เสียงตะไลที่กำลังหมุน ดังไปทั่วทั้งพื้นที่ และตะไลก็ค่อยๆ ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว เมื่อบั้งไฟขึ้นจนสุดแล้วร่มจะค่อยๆ กางออก ตะไลจะค่อยๆ ร่อนลงมาถึงพื้นดินอย่างช้าๆ และนิ่มนวล บ้างก็ได้ยินเสียง “ตู้ม” ตะไลระเบิดกระจัดกระจาย เศษของตะไลและดินปืนที่อัดไว้ กระจายออกมาเป็นสาย ลูกไฟสีส้มกระเด็นกระดอนเข้าท้องนา สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้มาดูได้ไม่น้อย |
|
ชาวบ้านต่างมารอชมบั้งไฟ ท่ามกลางแดดที่ร้อนระอุ |
|
|
นอกจากนี้แล้วในวันก่อนวันจุดบั้งไฟจริง บริเวณหน้าเทศบาลตำบลกุดหว้าจะมีพิธีเปิด โดยภายในพิธีเปิดจะมีการร่ายรำของสาวผู้ไทย ซึ่งจะสังเกตได้จากการแต่งกายของสาวผู้ไทย นอกจากเสื้อผ้าที่โดดเด่นดูเป็นเอกลักษณ์แล้ว การจัดแต่งทรงผมที่ประดับด้วยผ้าก็เป็นเอกลักษณ์ ชวนให้น่ามอง |
|
บั้งไฟเกิดการระเบิดกระจัดกระจาย |
|
|
หลังจากพิธีเปิดเสร็จสิ้น ก็จะมีการเคลื่อนขบวนแห่ของแต่ละหมู่บ้าน ซึ่งภายในขบวนแห่จะมีรถบั้งไฟสวยงามประดับด้วยตะไลจำลองในหลายรูปแบบ นอกจากนี้ยังมีการประดิษฐ์ของตกแต่งต่างๆ ที่ใช้ในขบวนแห่ ซึ่งมีความสวยงามและยังแสดงให้เห็นถึงประเพณีที่ดีงามไว้อีกด้วย |
|
สาวผู้ไทยกำลังร่ายรำในพิธีเปิด บริเวณหน้าเทศบาลตำบลกุดหว้า |
|
|
นอกจากนี้ภายในขบวนรถต่างๆ จะมีสาวงามของแต่ละหมู่บ้าน เดินถือป้ายหรือนั่งอยู่ในขบวนรถ เมื่อขบวนรถขับเคลื่อนออกมาจากเทศบาลตำบลกุดหว้า เสียงดนตรีภายในขบวนก็เริ่มดังขึ้น มีทั้งเสียงแคน เสียงพิณ และเครื่องดนตรีต่างๆ มากมาย และมีสาวน้อย สาวใหญ่ ร่ายรำมาพร้อมกับขบวนรถ บางขบวนก็จะมีผู้เฒ่าผู้แก่เดินร่วมอยู่ด้วย ซึ่งจะสามารถสัมผัสได้ถึงวิถีชีวิตและประเพณีที่ชาวกุดหว้าสืบทอดกันมาได้เป็นอย่างดี |
|
ผู้เฒ่าผู้แก่ต่างมาร่วมเดินขบวนแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมของชาวกุดหว้าได้เป็นอย่างดี |
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น